วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ลงทุน 5,000 บาท ใน ebay จะได้รายได้จากอีเบย์เดือนละ 20,000 บาท จะได้จริงหรือ

ลงทุน 5,000 บาท ใน ebay จะได้รายได้จากอีเบย์เดือนละ 20,000 บาท จะได้จริงหรือ

ครับ แบบว่าช่วงนี้ไปใหนมาใหนก็เจอแต่คนถามว่า ทำงานอะไร เพราะดูเหมือนคนไม่ทำงานเลย พอบอกว่าขายของทาง ebay ก็แบบ ร้องโอ้ววววว จริงหรือพี่ นู๋ไม่รู้จะทำยังไง ซื้อหนังสือมาอ่านแล้วก็ ยัง งง ๆ ซื้อมา 1 เล่ม ..... (ผมซื้อมา 3 เล่มง่ะ)

แล้วจะเริ่มขายยังไงล่ะคะพี่ feedback มันไม่มีมันน้อย หลายคนบอกว่าต้อง ซื้อ fb มาสะสมไว้ รอเย๊อะๆ แล้วจะขายได้ แล้วขั้นตอนล่ะ ทำอย่างไร จะส่งอย่างไร ลงสินค้าอย่างไร รายละเอียดสินค้าล่ะ แล้วทำอย่างไรให้คนซื้อ ลงทุนเท่าไร และที่สำคัญ .... ขายอะไรดี << นี่ล่ะสุดยอดสิ่งสำคัญ
จะเล่าจากประสบการณ์นะครับเพราะก็ทำมาได้ไม่นาน ผมเริ่มทำตั้งแต่ เดือน 6 /2010 ทำเพราะเจ้งมา 2 ธุรกิจ หมดเงินไป 2-3 แสน เสียเวลาไป 2 ปี มาเริ่มทำหลังจากไม่รู้จะไปทำอะไรเพราะ อายุก็ 29 ละ ทำธุรกิจส่วนตัวมา 2 ปี ไปที่ใหน พอบอกฐานเงินเดือนที่ทำงานเดิมเมื่อ 2 ปี ก่อนก็ไม่มีคนรับเท่าไรเพราะว่ามันสูง และด้วยอารมณ์ แบบว่า ไม่อยากกลับไปเป็นลูกจ้างอีกแล้ว จะ กด จะบ้าบอ กับ กฎเกณ์ อะไรมากมายจริงเชียว ก็เลยมาทำ Ebay ดีกว่าเพราะไปร้านหนังสือแล้วอ่านดูน่าสนใจ คิดว่าน่าจะทำได้

คำถาม : เริ่มต้นด้วยทุนเท่าไรดี ??? จะทำขายของใน ebay ก็ต้องมีทุนครับ แต่สำหรับคนว่างงานแบบผม + หมดตัวมา จะไปเอาทุนมาเริ่มทำจากใหน และเริ่มด้วยเงินสักเท่าไรดี พลาดมา จะเจ็บช้ำซะเปล่าๆ
คำตอบ : 5,000 บาทเป็นยังไงครับ พอใหวใหม คำถาม : เอาไปใช้จ่ายเงินอย่าไรดีล่ะครับคำตอบ : ในหนังสือหลายๆ เล่ม มักจะไม่ค่อยได้พูดถึงการขายแบบละเอียดสักเท่าไร เหมือน ที่เหลือ เมิงไปเจอเองเดี๋ยวก็รู้ ... แต่ผมว่ามันก็ยังคาใจน่ะล่ะครับ เพราะถ้าเราเตรียมเงินไว้ไม่พอ จะลำบากเอาได้ง่ายๆ เพราะอะไรน่ะหรือ เพราะ เราต้องเตรียมเงินไว้ดังนี้
1. ค่าสินค้า เราต้องซื้อสินค้ามาเพื่อใช้เก็บไว้เพื่อส่งสินค้าถ้าลูกค้าซื้อ บางรายอาจจะทำเองหรือ บางรายมาจากคนรู้จักทำให้ไม่ต้องซื้อ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ ดีล่ะครับ สบายกว่าคนอื่นไปอีกหลายเท่า เพราะสามารถกระจายช่องทางขายได้เพิ่มขึ้น และเพิ่มมูลค่า อย่างแรงส์
2. ค่าส่งสินค้า + พัสดุหีบห่อ พวกนี้จะกินราคาทุนไปพอตัวเลยนะครับเพราะอย่างผมนี่แรกๆ ก็คิดไว้แล้ว จะบอกเอาแบบ คร่าวๆนะครับ ค่าส่ง ของ ถ้าของน้ำหนัก 204 กรัมค่าส่งจะราวๆ 138 บาท +55 บาทค่าลงทะเบียน ถามว่าการลงทะเบียนสำคัญใหม เพราะ ตั้ง 55 บาท ก็ถ้าพูดกันตรงๆผมว่าสำคัญนะเพราะถ้า เราส่งไปแล้วของไม่ถึงมือลูกค้าเราสามารถใช้เลข tacking number นี่ล่ะมาใช้ยืนยัน ได้ครับ (ถ้าคุณซื้อของผ่านเน็ตคุณต้องอยากจะได้ความมั่นใจเหมือนกันใช่ใหม) และที่สำคัญเราสามารถนำเลขพวกนี้ไปใช้ยืนยันใน paypal อีกด้วย ปล.ถ้าไม่รู้จัก paypal ผมว่า อ่านหนังสือก่อนนะครับแล้วค่อยมาอ่านบทความของผม
ก่อนจบบทความแรก แบบห้วนๆ เพราะเมื่อยแล้ว ผู้เขียนได้เริ่มต้นลงทุนด้วยเงิน 5,000 บาท 5,000 บาทนี้นำไปใช้ทำอะไรบ้าง
ซื้อของ 2,500 บาท
ซื้อฉากหลัง 600-900 บาท (ไปเรื่อยจริงๆ)
ที่เหลือใช้เป็นเงินค่าส่งของ เพราะ เราขายได้แต่เงินเราได้รับในรูปแบบเงินใน paypal ซื้ออยู่ที่ต่างประเทศ ทำให้การถอนเงินออกมาต้องใช้เวลา 5-7 วันทำการ และ ที่สำคัญถ้าเงินในบัญชี pp (paypal) ยังไม่ถึง 5,000 บาท ถอนเงินออกมาจะเสีย 50 บาทค่าธรรมเนียม

ภาพต่อไปแสดงรายได้ เดือน 6 เดือนแรกที่ขายของใน ebay นะครับ

ภาพมีการตัดต่อและตกแต่ง ......... เพื่อลูกค้าที่น่ารักของผม อิอิ

เมื่อย+ขี้เกียจของจริงแล้ว วันนี้ขอพอแค่นี้ก่อนล่ะครับ ถ้ามีอารมณ์จะมาพิมพ์สอนต่อ สวัสดีครับ

ปล.อีกนิดส์ ตอนนี้ยังติดหนี้คุณนอท อยู่ ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะครับ ตอนนี้กำลังหมุนเงิน เพราะโดนเรื่องหนี้สินเก่ามากมาย จะรีบหามาคืนนะครับ

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

จดโดนเมน godaddy 5 ดอล ช้าหมดนะครับ

จดโดนเมนที่ GoDaddy เพียง 5 ดอล ช้าหมดนะครับ



ตามแบนเนอร์ด้านล่างเลยครับ ช้าก็หมดนะครับ :D



ไม่ชอบก็บอกกันนะครับ

วันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

108 งานเสริม รายได้เสริม งานนอกเวลา งานพิเศษ ???

งานเสริม รายได้เสริม งานนอกเวลา งานพิเศษ ???

เห็นเริ่มต้นหัวข้อแบบนี้ บางคนก็คงอยากรู้ว่ามันจะสามารถทำได้ หรือ ว่าอยากทราบว่าจะสามารถเริ่มต้นได้อย่างไร

ผมเคยทำมาก็หลายอย่าง แต่ในการทำงานเสริม รายได้เสริม งานนอกเวลา งานพิเศษ ??? หรืออะไรจะเรียกอย่างไรก็แล้วแต่ ส่วนใหญมักโดนหลอกให้ไปทำ ขายตรง หรือไม่ก็ ธุรกิจเครือข่าย ที่ต้องจ่ายเงินกัน กินกันเป็นทอดๆ มันไม่ตรงใจเอาเสียเลยสำหรับคนที่ต้องการหาอาชีพเสริมอย่างที่ ต้องการ

การทำอาชีพเสริมสำหรับผมคือ การลงทุนที่น้อยที่สุด หรือไม่ต้องลงทุนเลย แล้วได้ผลตอบแทนกลับคืนมา แม้ไม่มากก็ไม่เป็นไรเพราะ เราลงทุนน้อยมาก เพราะใช้แรงและความสามารถ

แล้วมันมีอะไรบ้างล่ะ กู(พอจะ)รู (เพราะไม่ใช่กูรู เอิ้กๆๆ เล่นเอง ขำเอง อิอิ) 108อาชีพเสริม ก็พอจะสามารถแนะนำได้บ้าง

ถ้าคุณเป็นคนที่มีความสามารถด้านภาษา และสามารถ ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อพิมพ์ได้ รู้ใหมว่านั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สามารถทำเงินให้คุณได้แล้วล่ะ เพราะมีหลายคนที่ต้องการคนที่ "รับจ้างเขียนบทความ" ครับ ตามนี้ล่ะครับ

อาจจะเกิดคำถามขึ้นในใจว่า ฉันไม่ได้เป็นนักเขียนมาก่อนใครเขาจะต้องการให้ฉันเขียนล่ะ ?? การเขียนบทความนั้นไม่ยาก เพราะอย่างน้อยน้อยๆ ผมเชื่อว่าหลายท่านก็คงจะเคยทำรายงานเพื่อส่งงานให้ อ. ตอนสมัยเรียนกันแทบทุกคน ยกเว้นคนที่ไม่ส่ง ^ ^ (อิอิ ผมเองก็เป็นบางครั้ง) โดยเริ่มต้น คำถามก็มักจะมีคือ

Q : แล้วจะไปรับจ้างเขียนที่ใหนล่ะ
A : http://www.thaiseoboard.com/index.php/board,26.0.html หนึ่งในที่ๆสามารถทำเงินให้กับหลายคนและบางคนหันเหชีวิต สามารถตั้งตัวได้จากการทำงานผ่านอินเตอร์เนต ( .... ไม่ใช่ขายตรงนะครับ และก็ไม่ใช่ธุรกิจเครือข่าย และก็ไไม่ใช่ธุรกิจที่กำลังหาคนร่วมหุ้น ....แล้วก็ให้ไปจ่ายเงินค่าสมัครเป็นสมาชิก )

Q : แล้วจะได้เงินเย๊อะใหม
A : ถ้าคุณเขียนบทความดีๆ 1 หน้า A 4 แล้วเขียนถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ อย่างน้อยๆ ก็ 100 - 250 บาทสำหรับผู้เริ่มต้นแล้วครับ ถ้าเขียนดี มีขาประจำ เริ่มโปร ก็สามารถได้ที่ 200-450 บาทสบายๆ

Q : แล้วจะเขียนเกี่ยวกับอะไรล่ะ
A : คนจ้างจะบอกเองครับว่าต้องการบทความเกี่ยวกับเรื่องอะไร

Q : แล้วเราจะเอาอะไรมาเขียนให้เขาได้ขนาดนั้น
A : เราสามารถค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับบทความนั้นๆ เป็นภาษาไทย แล้วเรียบเรียงใหม่เป็นภาษาอังกฤษ โดยพิมพ์ให้ถูกต้องและสวยงามอีกครั้งครับ

Q : อย่างนี้ก็สามารถใช้โปรแกรม แปลภาษาได้น่ะสิ
A : ได้ครับแต่เรียกว่านำมาช่วยจะดีกว่า และต้องมานำเรียบเรียงและอ่านให้รู้เรื่องและถูกต้อง และที่สำคัญ ... คดโกงนั้นอยู่กินได้ไม่นานนะครับ

อ่านต่อคราวหน้า นะครับวันนี้เมื่อยมาก ยังมีอีกหลายช่องทางที่สามารถทำเงินได้จริง หาเงินผ่านเนต ไม่อยากเกินจะทำหรอกครับ ^ ^

ปล.วันนี้จริงจังนิดส์ๆ เพราะเห็นว่าหลายท่านอาจจะเคร่งเครียดเพราะเป็นเรื่องเงินๆทองๆ เกรงว่าการเล่นมุขจะทำให้เข้าใจว่าพูดเล่นได้ .... เรื่องที่บอกมาสามารถทำได้จริง

บทความหน้า หาเงินผ่านเนตเดือนละ15,000-30,000บาทต่อเดือน ^ ^
อุว้าว ได้จริงหรือ ???

วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2553

มาดูน้องลิชชี่เฉลยว่า "หมูฉึกๆ" แปลว่าอะไร ?

มาดูน้องลิชชี่เฉลยว่า "หมูฉึกๆ" แปลว่าอะไร ?



แปลว่าที่ ฮิตๆกันน่ะ แปลว่าเน่า สินะ -..- แล้วมีคนบ้าฮิตตามตั้งมากมายค่อนเมือง ตอนี้ก้รู้กันแล้ว ยังจะ "ฉึก ๆ"(เน่า) กัน อยู่ใหมเนี่ย หรือว่าเราจะได้คำ ด่าใหม่ๆ ไอ่ฉึกๆ แทน ^ ^


เพลงเพราะๆ
women's snow boots

วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วิธีป้องกันการ Tags รูปหรือวิดีโอ เอาไว้กันพวกสแปม โฆษณาบน Facebook (ภาค 2)



วิธีป้องกันการ Tags รูปหรือวิดีโอ เอาไว้กันพวกสแปม โฆษณาบน Facebook (ภาค 2)

เนื่องจาก การแก้ในแบบแรก http://black-sesame-story.blogspot.com/2010/10/tags-facebook.html มีบางคนถามมาว่า ไม่ต้องการกันจากเพื่อนตัวเอง เพราะยังต้องการให้เพื่อน tag ภาพมาเล่นกันอยู่ จะทำอย่างไรได้บ้าง เพราะวิธีแรกนั้น เหมาะกับคนที่ต้องการป้องกันแบบรวมๆ แต่ถ้าเราต้องการลบเป้นรายบุคคลเราทำอย่างไรดี ผมมีวิธีง่ายๆ ครับ "ลบมันออกจากชีวิตเรา" ฟังดูโหดได้ใจไร้ซึ่งเยื่อใย แต่ทำไงได้ก็เมิงมากวนกุก่อนหนิ ^ ^


นี่ก็อีก 1 ตัวอย่างล่ะครับ

วิธีแก้ ก็ไปยังโปรไฟล์ของคนที่มา tag เรา แล้วเลื่อนลงมาด้านล่างสักนอก ด้านซ้าย แล้วก็กดเลยครับตามภาพ



แต่หลังจากนี้ก็ต้อง เลือก add รับเฉพาะเพื่อนเราหรือคนรู้จักนะครับ เพราะไม่อย่างนั้น ก็จะมี พวกนี้เข้ามาอีกเรื่อยๆ

ปล. แต่ถ้าเป็นเพื่อนเ้ราทำก็บอกเขาหน่อยละกัน ว่า กูขอเต๊อะ ปล่อยกุไปเถอะนะ ขอร้องงงงงง ^ ^

เพลงเพราะๆ
women's snow boots

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Avatar สวยๆ เท่ๆ แบบนี้เขาเอามาจากใหนกันนะ


Avatar สวยๆ เท่ แบบนี้เขาเอามาจากใหนกันนะ ???

เป็นคำถามที่ช่วงนี้ได้ยินและฮิตกันมากมาย แต่ที่ผมชอบก็คงจะเป็นของ MakeME Photos ซึ่งจะใช้โปรแกรมตัวนี้ออกแบบได้ต้องเป็นคนที่ใช้ มือถือ I phone นะครับเพราะมันเป็น app ที่ทีมให้โหลดเพื่อสร้างตัวและ upload มายัง user ของเราใน face book ซึ่งการสร้างตัวเราก็ไม่ได้ยากมากมายอะไรนัก กดๆเล่นไปเถอะครับเดี๋ยวก็สร้างได้ ^ ^ ..... อุอุ (เหมือนจะมาสอนเลยเนอะ) ก็มันง่ายจริงๆ แต่ถ้าเราต้องการใส่ชุดที่แปลกกว่าคนอื่นหรือเพิ่มฉากหลัง ตัว app นี้ก็มีให้แต่ต้องเสียเงินเพิ่มด้วยนะครับ ดอล กว่าๆ แต่เราก็ใช้ฟรีก็ได้ถ้ายังไม่อยากจ่ายเงิน ปล. ทริกพิเศษ ให้เพื่อนที่ใช้ i phone ทำภาพแล้วส่งมาให้เราก็ได้ครับ ผมเองก็เป็นหนึ่งในผู้ไม่มี i phone อย่างชาวบ้านเขา -..- เราก็ใช้วิธีนี้ล่ะ อิอิ ภาพที่ได้ก็จะเป็นอย่างด้านบนนี่ล่ะครับ ....หล่อซะ เกินตัวจริงเลย ตัวจริงยังอาย เอิ้กๆๆ

อีกตัวอย่างที่ตอนนี้เขาก็ใช้กัน นั่นก็คือ dtac one D.I.Y. ซึ่งตัวนี้ไม่ต้องมี i phone ก็สามารถใช้ได้นะครับ เพราะว่ามัน มีลิ้งค์ให้ไปสร้างได้เลย ตามนี้ >>>http://www.facebook.com/simpleonediy?v ถ้าเข้าไม่ได้ก็

http://www.facebook.com/simpleonediy?v=app_4949752878 นี้ล่ะครับ ถ้าสร้างตัวเสร็จแล้วก็จะมีหน้าตาเป็น เช่นนี้



อันนี้ก็เล่นซะ ตัวจริงอายอีกรอบ ทำใมมันดูเป็นแบบนี้ได้ไง ตัวจริง ต้องลงพุงด้วย เอิ้กๆๆ

เอาล่ะครับ ยังไงก็ไำปลองทำได้นะครับหวังว่าบทความนี้คงจะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังค้นหาอยู่นะครับนะครับ

เพลงเพราะๆ
women's snow boots

วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553

30สิ่ง น่าทำ ตอนที่ยังมีชีวิต

• 1. ทำอะไรที่น่าตื่นเต้นในแต่ละวัน
• 2. ไปเที่ยวที่ที่คุณไม่เคยไป กับคนที่คุณไม่เคยคิดจะลืม
• 3. ซื้อความสุข ด้วยรอยยิ้ม
• 4. คุยกับคนแปลกหน้า เพื่อหาเพื่อนใหม่

• 5. ช่วยคนอื่น เมื่อคุณสามารถช่วยได้
• 6. สังเกตสิ่งรอบๆตัว อาจพบความสุขเล็กๆ เข้ามาในชีวิต
• 7. อยู่เงียบๆ กับตัวเองวันละ 5 นาที... เพื่อคิด
• 8. ทุ่มตัวเองเต็มที่ กับการหาทางแก้ปัญหา ที่คุณกำลังเผชิญอยู่

• 9. คบคนที่มองโลกในแง่ดี
• 10. เข้าคอร์สเรียนเพิ่มเติม ในเรื่องที่คุณสนใจ
• 11. จัดเวลา นัดเจอ เพื่อนสนิท ในแต่ละเดือน ไป กิน เที่ยว เล่น
• 12. มองพระอาทิตย์ขึ้น สัปดาห์ละครั้ง

• 13. ดูพระอาทิตย์ตกดิน สัปดาห์ละครั้ง
• 14. ปลูกผักเอง เอาไว้ทานเอง
• 15. ไปหาเพื่อน ที่ไม่ได้เจอกันมานานนับปี
• 16. หยุดตามกระแสสักนิด และทำตามแนวคิดที่เหมาะสำหรับตัวเอง

• 17. บอกตัวเองว่า ไม่มีอะไรสายเกินไป
• 18. ค้นหา ประสบการณ์ดีๆ แปลกใหม่ ให้กับชีวิต
• 19. เลิกกังวลกับสิ่งที่คุณไม่มี และมีความสุขในสิ่งที่คุณมี
• 20. โรแมนติก ทำเซอร์ไพรซ์คนที่คุณรัก

• 21. หยุดเสียเวลา กับเรื่องหยุมหยิมที่ไม่จำเป็น
• 22. รับประทานอาหารให้ช้าลง ลิ้มรสความอร่อย
• 23. ขอความช่วยเหลือ เมื่อต้องการ เพราะคุณจะไม่ได้รับความช่วยเหลือ หากไม่เอ่ยปาก
• 24. ถามคำถาม เมื่อสงสัย... ช่วยประหยัดเวลา และลดความยุ่งยากใจ

• 25. เล่นสนุกบ้าง ชีวิตมีแค่ครั้งเดียว
• 26. ทำอะไรทีละอย่าง จะได้ทำออกมาได้ดี
• 27. ฝึกความพอเพียง – พอดี เมื่อมันเกิดขึ้นกับคุณ จะไม่มีใคร เอาไปจากคุณได้
• 28. รักษาสัญญา

• 29. ดูตลก ฟังเรื่องตลก และแบ่งปันกับคนอื่น
• 30. เปิดโลกความคิดสร้างสรรค์ของคุณ กับงานศิลปะ เช่นดนตรี ภาพถ่าย ภาพยนตร์ ฯลฯ

เคดิต คุณ gam_55 จาก TSB

บางทีคนเราก็อาจจะไม่มีโอกาสหลังจากที่ ร่ำรวยก็ได้นะ ถ้ามีเวลา เราก็ควรจะหาความสุขใส่ชีวิตเราเองบ้างอย่าไปรอว่า รวยก่อน หรือมีเงินมากกว่านี้ก่อน ถ้าถึงตอนนั้นแล้วสุภาพไม่อำนวย .... เวลามันย้อนกลับไปไม่ได้จริงๆ ......

เพลงเพราะๆ
women's snow boots

วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

วิธีป้องกันการ Tags รูปหรือวิดีโอ เอาไว้กันพวกสแปม โฆษณาบน Facebook

คือแบบว่าช่วงนี้โดนถี่มาก กับการ tag ภาพหรือ เราควรจะเรียกกว่าการสแปมดี เพราะมันช่างรบกวนซะหรือเกิน
ผมก็เลยไปค้นหาวิธีมาแก้ ค้นไปมาก็ดันมาเจอในเวปบอร์ดที่เล่นซะงั้น ก็เลยขอคัดลอกข้อมูลมาเพื่อเป้นความรู้แนวทางแก้ไขให้แก่ผู้เดือดร้อนคนอื่นๆด้วย อ่ะข้อความก็ตามนี้นะครับ ^ ^
แหะๆ.. พอดีผมเขียนไว้บนเฟซบุค...เลยเอามาแชร์น่ะครับ... Embarrassed

เห็นหลายคนกำลังประสบปัญหากับไอ้พวกสแปมทั้งหลายที่แต่ก่อนมาในรูปแบบอีเมลล์ตอนนี้มันเริ่มกลายพันธ์มาขยายพันธุ์บนเฟซบุค อะนี่ตัวอย่างของพวกสแปม... สแปมมันคือพวกบ้าบองี่เง่าสุดๆ... พูดถึงระบบพวกนี้ เมืองนอกเค้าก็ทำระบบมาดีนะครับ... แต่คนบางกลุ่มบางประเภทก็เอามาทำซะเสียด้วยความโลภใจร้อนอยากได้ไวๆโดยไม่สนความเดือดร้อนอะไรเลย...มันเลยทำให้คนมองในระบบพวกนี้ ในแง่ลบ...เอาล่ะพูดมากพอแล้ว...
นี่เป็นตัวอย่างสแปม


นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น...ครับ โดยปกติการแท็กรูปหรือวีดีโอ เราจะสามารถนำชื่อเพื่อนใน List เรามาแท็กได้เลย ถ้าเราไม่ได้ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว แล้วไอ้พวกสแปมพวกนี้มันก็อาศัยช่องว่างตรงนี้ มาไล่แอดๆ เพื่อนๆเราเยอะๆ แล้วมันก็มาไล่แท็กเพื่อนในลิส ทั้งชื่อทั้งรูปมันก็เอาของใครมานักก็ไม่รู้ มาเปลี่ยนชื่อบางทีชื่อ:Xก็ยังเปลี่ยนไม่ครบเลย... ตอนแรกชื่อหนึ่งพอท้ายๆก็ไปอีกชื่อนึง... อืม...ก็ไปได้นะ... เอาล่ะสำหรับวิธีการตั้งค่าการ tags
1. ไปที่ตรง Account มุมขวาด้านบนนะครับ หรือภาษาไทยก็ ผู้ใช้บัญชี นะครับ แล้วไปที่ Privacy Settings (ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว)
2. ก็จะมาหน้านี้ครับ ให้คลิกที่ Customize settings (ปรับปรุงการตั้งค่า) ครับ

3. ตรงหน้านี้นะครับ ให้ดูส่วน Photos and videos I'm tagged in (รูปและวีดีโอที่ฉันถูกแท็ก) ให้เลือกCustomize (ปรับแต่ง) นะครับ ดูที่รูปนะครับ

4. เมื่อเรามาถึงตรงนี้เราสามารถตั้งค่าว่าใครจะสามารถแท็กเราได้ อนุญาติใครได้บ้าง ก็ให้เราเลือกได้เลยครับ ถ้าจะให้ดีหน่อยเราก็เลือก เจาะจงเฉพาะคน... ก็ได้นะครับ เราสามารถเลือกเฉพาเพื่อนๆเราที่สนิทกันก็ได้ครับ... หรือจะเลือก แค่ฉัน เลยก็ได้นะครับ ถ้าไม่ต้องการให้ใครมาแท็กเรา เอาเป็นว่าลองเลือกๆดูละกันครับ... ลองดูที่รูปก็ได้อย่างของผมคือผมเลือก Only me (แค่ ฉัน)

ยังไงก็ลองเอาปรับไปใช้ดูกันได้นะครับ... เผื่อว่าจะช่วยกรอกไอ้พวกสแปมได้ระดับหนึ่ง เอาเป็นว่ากรองคน กรองเพื่อนดีกว่านะครับอันไหนแปลกก็อย่าไปรับมัน...


ปล. อนุญาตให้นำไปแชร์ได้นะครับ... ไม่สงวนลิขสิทธิ์ครับ... ^^ MaHaBoyD

**** นี่ก็เป็นอีก 1 วิธีการแก้ไขนะครับ ****


เพลงเพราะๆ
women's snow boots

วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ผ่ารหัสระทึกโลก 10/10/10

ไขปริศนาวันที่ 10 ต.ค.ปี 2010 วันแห่งการสูญเสีย วันอาถรรพ์ วันมหาซวย หรือวันมงคลที่จะเริ่มต้นทำสิ่งดีๆ ให้กันและกัน...

วันที่ 10 ตุลาคมของทุกปี หากจะนับตามปฏิทินสากลแล้ว จะถือว่าวันนี้เป็นวันที่ 283 ในรอบปี แต่ถ้าหากเป็นใน ปี "อธิกสุรทิน" หรือปีที่เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วันนั้น ก็จะถือเป็นวันที่ 284 ของปี อีกทั้งที่จะมาพบกับมนุษย์บนโลกใบนี้ทุก ๆ 1,000 ปี ซึ่งจากการค้นคว้าข้อมูลทางประวัติศาสตร์ได้พบว่า วันที่ 10 ตุลาคมนี้ถือเป็นวันที่เคยเกิดเหตุการณ์ร้ายหลายต่อหลายครั้งนับตั้งแต่อดีตกาลเป็นต้นมา บ้างก็ว่าวันที่ 10 ตุลาคมเป็นวันแห่งความสูญเสีย บ้างก็ว่าวันนี้เป็นวันอาถรรพ์ บ้างก็ว่าวันนี้เป็นช่วงเวลาที่ต้องคำสาป

สำหรับในโลกไซเบอร์ความน่าสนใจของวันที่ 10/10/10 น่าไปอยู่ที่กิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม และ การช่วยผู้ด้อยโอกาส

เว็บไซต์ www.350.org องค์กรรักษ์สิ่งแวดล้อม เริ่มกิจกรรมที่อาจเรียกได้ว่าเป็นวันปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในวันอาทิตย์ที่ 10 ต.ค.ใช้ชื่องานว่า "โกลบอล เวิร์ก ปาร์ตี้" โดยเป็นการขับเคลื่อนระดับคนรากหญ้าจากทั่วโลกหวังกระตุ้นการเพิกเฉยของ ระดับผู้นำประเทศที่ยังสะดุดปัญหาการเจรจาภาวะโลกร้อน ซึ่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จัดประชุมเสร็จสิ้นที่เมืองเทียนจิน ฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เมื่อ 9 ต.ค.เชื่อว่าผู้คนจากกว่า 180 ประเทศร่วมจัดกิจกรรมรักษ์โลกกว่า 7,000 งาน

ขณะที่ในเว็บไซต์ ทวิตเตอร์ดอทคอม www.twitter.com ผู้ใช้งานส่วนมากที่เป็นชาวตะวันตก ต่างทวีตขอพรให้เป็นวันที่ดี หรือเป็นวันอาทิตย์ที่สดใส หลายๆ คนนิยมรีทวีตข้อความส่งต่อไปอีก 10 คน เพื่อให้ตัวเองโชคดี และให้ผู้ที่รีทวีตต่อโชคดีตาม เหมือนกับการส่งจดหมายลูกโซ่ ส่วนหากไปตรงกับวันเกิด หรือวันคล้ายวันเกิดก็จะขอพรกับพระผู้เป็นเจ้า เพื่อให้ตัวเองเจอแต่เรื่องดีๆ ตลอดปี เป็นต้น โดยเฉพาะคู่หนุ่มสาวชาวจีน หรือคนเชื้อสายจีน เชื่อกันว่า วันที่ 10 เดือน 10 ปี 10 เป็นสัญลักษณ์ในความหมายของภาษาจีนว่า "ดีงามสมบูรณ์แบบหมดจด" อันเป็นฤกษ์ดีในการจัดพิธีมงคลสมรส สำหรับประเทศไทย บรรดาร้านค้า และภัตตาคารต่างๆ ก็จัดกิจกรรมในวันนี้เช่น เมนู 10 บาท โปรโมชันรับประทานบุฟเฟต์ 10 ชั่วโมงอีกด้วย

เมื่อมีวันสมหวัง วันที่ 10/10/10 ยังถือเป็นวันที่จัดงานเพื่อของคนที่ไร้หวัง อย่าง World Homeless Day หรือ วันคนไร้บ้านโลก ที่มีนับหลายล้านคนกระจายอยู่ทั่วโลก โดยจะมีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับคนไร้บ้านในกว่า 50 ประเทศ เพื่อชูประเด็นถึงปัญหาคนเร่ร่อน และการให้ความช่วยเหลือ เพื่อฟื้นฟูชีวิตให้ดีขึ้น โดยมีเว็บไซต์โต้โผใหญ่ คือ http://www.worldhomelessday.org

สำหรับประเทศไทย วันที่ 10/10/10 ยังเป็นที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อจัดกิจกรรมทางการเมือง เพื่อรำลึกถึงการเคลื่อนไหวทางการเมืองของประชาชน ในเหตุการณ์เดือนตุลา และเหตุการณ์ปะทะที่ย่านราชประสงค์ เมื่อเดือน พ.ค.2553 โดยจะมีกลุ่มเรดไซเบอร์ และกลุ่มแดงเฟซบุ๊ก มารวมตัวเพื่อจัดกิจกรรมที่ลานอนุเสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี และบริเวณอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ด้วย

ส่วนในมุมของต่างประเทศ จากการสืบค้นข้อมูลของทีมข่าวต่างประเทศไทยรัฐออนไลน์ ได้พบข้อมูลอันน่าตกใจว่า วันที่ 10 ตุลาคมเคยเกิดเหตุการณ์ร้าย ๆ ขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน เริ่มตั้งแต่ในปี ค.ศ. 680 อิหม่าม ฮูเซย์น อิบบิน อาลี หลานชายของ "ศาสดามูฮัมหมัด" แห่งศาสนาอิสลาม ถูกสังหารและถูกจับตัดหัวในการสู้รบกับศัตรูที่เมืองคาร์บาลาในดินแดนที่เป็นประเทศอิรักในปัจจุบัน เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ชาวมุสลิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่นับถือนิกายชีอะห์จดจำวันที่ 10 ตุลาคมว่าเป็นหนึ่งในวันที่เลวร้ายที่สุดสำหรับพวกเขา ในฐานะของ "วันแห่งการไว้ทุกข์" และ "วันแห่งความสูญเสีย"


ถัดมา คือ วันที่ 10 ตุลาคมในปี 1580 กองทัพอังกฤษดำเนินการ "ตัดหัว" นักรบไอริช และทหารของสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 13 จำนวน 600 นาย ที่ " Dún an Óir " ในไอร์แลนด์ ถือเป็นเหตุการณ์สังหารหมู่ที่ถูกบันทึกเอาไว้ว่า มีความโหดเหี้ยมที่สุดของโลกตะวันตกในช่วงศตวรรษที่ 16 และทุกวันนี้บริเวณท้องทุ่งที่เกิดการตัดคอทหาร 600 นายในครั้งนั้น ก็ได้รับการขนานนามจากชาวไอริชในปัจจุบันว่าเป็น "ทุ่งแห่งผีหัวขาด" ซึ่งยังคงมีรายงานการพบเห็น "วิญญาณทหารที่ไร้หัว" ออกมาเดินปรากฏกายร้องขอความช่วยเหลืออยู่เป็นระยะจนถึงทุกวันนี้ ทั้งที่เหตุการณ์สยองในคราวนั้นได้ผ่านพ้นล่วงเลยมาหลายร้อยปีแล้ว

จากนั้นก็ถึงคิวของวันที่ 10 ตุลาคม ปี 1780 เกิดพายุเฮอร์ริเคนครั้งใหญ่ระดับ "เกรต เฮอร์ริเคน" ในทะเลแคริบเบียน และไม่น่าเชื่อว่าพายุคราวนั้น จะทำให้มีผู้เสียชีวิตตามหมู่เกาะต่างๆ แถบเลสเซอร์ อันทิลลิส เกาะเปอร์โตริโก เบอร์มิวดา และอีกหลายมลรัฐทางตอนใต้ของสหรัฐฯ รวมกันมากถึง 27,500 คน อันเป็นยอดผู้เสียชีวิตจากพายุคราวเดียวที่ "สูงที่สุด"ในประวัติศาสตร์ รายงานระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตที่แท้จริงจากมหาเฮอร์ริเคนคราวนั้นอาจสูงกว่า 30,000 รายด้วยซ้ำ

ในปี 1944 กองทัพนาซีเยอรมันได้รับคำสั่งจากผู้นำสูงสุด คือ "อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ " ให้จับเด็กๆ ชาวยิปซี 800 คนเข้าไปสังหารทิ้งด้วยการรมแก๊สพิษ ในค่ายกักกันที่ "เอาชวิตซ์" ทางตอนใต้ของประเทศโปแลนด์ เหตุการณ์สังหารหมู่เด็กยิปซีคราวนั้นถูกบันทึกว่า เป็นการสังหารหมู่ที่ทำให้มีเด็กเสียชีวิตพร้อมกันในคราวเดียวเป็นจำนวนมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของโลก


จากนั้นอีก 13 ปีต่อมา คือ วันที่ 10 ตุลาคม ปี 1957 โลกก็ต้องจารึกการเกิดอุบัติเหตุทางด้านนิวเคลียร์เป็น "ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ " หลังเกิดเพลิงไหม้ที่โรงงานนิวเคลียร์ "วินด์สเกล" ของสหราชอาณาจักร

ปี 1986 เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 7.5 ริคเตอร์ใจกลางกรุงซัน ซัลวาดอร์ เมืองหลวงของเอล ซัลวาดอร์ ในอเมริกากลาง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีิวิตมากกว่า 1,500 รายภายในวันเดียว ผลจากโศกนาฏกรรมคราวนั้นทำให้รัฐบาลเอล ซัลวาดอร์ประกาศให้วันที่ 10 ตุลาคม เป็น "วันแห่งหายนะ" ซึ่งต้องมีการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและการไว้ทุกข์ให้กับผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวคราวนั้น ต่อเนื่องเป็นประจำจนถึงทุกวันนี้

ในปี 1997 เครื่องบินโดยสารของสายการบิน " Austral Airlines" ของอาร์เจนตินา ประสบอุบัติเหตุตกลงอย่างปริศนา และระเบิดเป็นจุลใกล้กับเมือง "นวยบา เบร์ลิน" ในอุรุกวัย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 74 คน และที่น่าเเปลก คือ เหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม หลังจากที่เครื่องบินขึ้นจากรันเวย์ได้ 10 นาทีกับอีก 10 วินาทีพอดิบพอดี และที่แปลกไปกว่านั้น คือ ผู้เสียชีวิตทั้ง 74 รายมาจากประเทศต่างๆ รวม 10 ประเทศอีกด้วย

อีก 3 ปีต่อมา คือ วันที่ 10 ตุลาคม ปี 2000 นางสิริมาโว บันดาราไนยเก นายกรัฐมนตรีหญิงเหล็กของศรีลังกา ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นผู้หญิงคนแรกของโลกที่ได้เป็นหัวหน้ารัฐบาล ได้เสียชีวิตลงอย่างกะทันหันด้วยสาเหตุธรรมชาติ และการเสียชีวิตของเธอในวันที่ 10 ตุลาคม ปีนั้น ถือเป็นการเสียชีวิตในวันเลือกตั้งพอดี และการสิ้นลมของเธอก็เกิดขึ้นเพียง 10 นาที หลังจากที่เธอเพิ่งกลับจากการเดินทางไปใช้สิทธิ์ที่หน่วยเลือกตั้งแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจากบ้านพักของเธอ 10 กิโลเมตร

จากนั้น 10 ตุลาคม ปี 2004 โลกต้องสูญเสียนักแสดงชื่อดังชาวอเมริกันอย่าง "คริสโตเฟอร์ รีฟ" เจ้าของบทบาทซูเปอร์ฮีโร่กางเกงในสีแดงอย่าง "ซูเปอร์แมน" ไปอย่างไม่มีวันกลับ หลังจากที่เขาเสียชีิวิตในวัย 52 ปี


ปิดท้ายด้วยเหตุการณ์ล่าสุด คือ 10 ตุลาคม 2008 เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่เขตโอรัคไซของปากีสถาน ใกล้กับชายแดนอัฟกานิสถาน โดยมือระเบิดปลดชนวนระเบิดที่มีน้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัมบนรถบรรทุกคันหนึ่งระหว่างการชุมนุมของชาวบ้านในพื้นที่ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 110 คน บาดเจ็บมากกว่า 200 ราย สาเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดจากความขัดแย้งระหว่างนักรบตาลิบัน กับชนเผ่าพื้นเมืองในพื้นที่

จากเหตุการณ์ต่างๆ ข้างต้น จะเห็นได้ว่าวันที่ 10 ตุลาคมถือเป็นวันที่เคยเกิดเหตุการณ์ร้ายมาโดยตลอดนับตั้งแต่อดีตกาล และในจำนวนนี้มีอยู่หลายเหตุการณ์ที่นอกจากจะเกิดขึ้นในวันที่ 10 ตุลาคมแล้วยังมีปัจจัยแวดล้อมต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเลข 10 ผนวกกันเข้าไปอีก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด หากหลายคนจะกลัวกันว่า วันที่ 10 เดือน 10 ปี 2010 นี้จะเกิด "เหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์" ใดขึ้นอีกหรือไม่ และเหตุการณ์ร้ายที่ว่าจะเกิดขึ้น ณ พื้นที่ส่วนใดของโลก.

ขอบคุณข่าวจากไทยรัฐ http://www.thairath.co.th/content/oversea/117591

ปล. คนอื่นไม่รู้จะเจออะไรแต่วันนี้ผมเจอสิ่งดีๆแล้วอ่าาา มีรายได้เข้ามารอดไปไปได้อีกเดือน ^ ^


เพลงเพราะๆ
women's snow boots

วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

บ่นไปเรื่อย กับแนวทางของหนัง

วันนี้ไม่มีอะไรมากครับ แค่ บางทีก็งง ว่า ทำใมหนังไทย มันถึงแบบว่า โอย ดูแล้ว บางที่ เสียดายเงินจริงๆ หรือไม่ก็บางเรื่อง ดูแล้วบางครั้งก็ แบบว่าเขา ทำ พล๊อตเรื่องมาในแบบที่เขาอยากอธิบาย ว่ามันเป็นอย่างนี้นะ
และอยากให้เราเข้าใจว่าอย่างไร
แต่มันจะมีใหมหนังที่สามารถให้เราก่อเกิดไอเดียหรือ จุดประกายความคิดสร้างสรร แก่เราที่สามารถนำสิ่งนั้นไปใช้ต่อได้อีก
แต่....ก็อีกนั่นล่ะหนังเขาก็มีแนวของเขา แล้วแต่คนชอบกันไปในบางครั้งคนเราก็ต้องลองลิ้มรสชาดที่ไม่ชอบ เพื่อที่จะได้เรียนรู้ วันนี้เมื่อยนิดๆหลังนี้ปวดไปหมด แต่ก็ไม่น่าเบื่อเหมื่อนวันก่อนที่ได้ดูหนังเรื่อง หนึ่ง ขอตั้งชื่อว่า ตาแก่โรคจิตย่างปลาล่อแมว แล้วลงโทษทารุน ...... โรคจิตมากๆ

...... ลองเดากันดูใหมครับว่า หนังเรื่องนี้คือเรื่องอะไร

ปล.หลายคนบอกว่าได้แง่คิดกับหนังเรื่องนี้ แต่สำหรับผม...... "ครอบครัวตัว ฮ " หนุกกว่าเย๊อะะะะะ
เพลงเพราะๆ
women's snow boots

วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553

ภูมิแพ้ ใครจะไปรู้ว่าเป็น ???? ภาค 2.


อาการตอนนั้นแบบว่า "เหว๋ออออ ใครจะไปเชื่อเนี่ย หลอกกินตังเราหรือเปล่าเนี่ย"

ว่าแล้วคุณหมอ ก็บอกว่า มานี่สิ ตามมาอีกห้องหนึ่ง

พอเข้าไป คุณหมอก็บอกให้นอนลง (อ้าส์งงงง คุณหมอคิดอะไรกับปั๋มเนี่ย)

แล้วคุณหมอก็ควักเอาของแข็งมาทิ่มๆแยงๆ เข้ารูของผม แล้วถามว่าเจ็บใหม ถ้าเจ็บก็บอกนะ

ผมตกใจมาก ไม่รู้จะว่ายังไง ได้แต่คิดว่าเขาคงทำอย่างนี้กับทุกคน โอยยยยยย

ผมเริ่มรู้สึกทนไม่ไหว ก็เลยพูดออกไป "คุณหมอครับ เอาอะไรมาแยงรูจมูกผมอ่ะ ???"

แม่มมมมม จะถึงก้านสมอง กุใหมเนี่ย

คือแบบว่า คุณหมอ เอาเครื่องมือเป็นกล้องขนาดเล็กสอดเข้าไป ที่รูจมูกแล้วถ่าย วิดีโอ คลิปให้ผมดู

โอ้ว มายก๊อดดดด นี่ภายในรูจมูกของเราหรือนี่

คุณหมอก็บอกว่านี่ ภายในรูจมูกของคนปกติ ว่าแล้วก็กดคลิปให้ดู

ส่วนนี่ ของคุณ "เห็นใหม มันมีการอักเสป รูจมูกของคุณนั้น ปิดไปแล้วถึง 80 %"

" เหว๋ออออออ อีกแล้ววววว " แล้วคุณหมอก็บอกอีก ว่า เพราะมันเป้นอย่างนั้นทำให้ปากคุณจะแอบห้อยในบางที
เพราะมันไม่สามารถหายใจทางจมูกได้ หมอขอแนะนำ ให้เลิกสูบบุหรี่ด้วยนะ

ก่อนจะจากลา คุณหมอครับ ทำใมผมถึงเป็นล่ะครับ คุณหมอบอก มันอยู่ในยีนส์กรรมพันธุ์ของคุณน่ะ ไม่ทางพ่อก็ทางแม่ น่ะล่ะ

หมอบอก "คุณไม่ได้ผิดอะไรหรอก มันเป็นเพราะต้นตระกลูเรา"

To be continue part 3.

สาระเล็กน้อย เกี่ยวกับภูมิแพ้


โรคภูมิแพ้ คือโรคที่เกิดจากปฏิกิริยาภูมิไวเกินต่อสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งในคนปกติไม่มีปฏิกิริยานี้เกิดขึ้น ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ มีปฏิกิริยาภูมิไวเกินต่อ ฝุ่น ตัวไรฝุ่น เชื้อราในอากาศ อาหาร ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ เป็นต้น สารที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาภูมิไวเกินนี้เรียกว่า 'สารก่อภูมิแพ้' โรคภูมิแพ้ สามารถแบ่งได้ตามอวัยวะที่เกิดโรคได้เป็น 4 โรคคือ
1.โรคโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือโรคแพ้อากาศ
2.โรคตาอักเสบจากภูมิแพ้
3.โรคหอบหืด
4.โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง


ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ อาจมีอาการในอวัยวะเดียว หรือหลายอวัยวะร่วมกันก็ได้

โรคภูมิแพ้ จัดเป็นโรคที่พบบ่อยโรคหนึ่งในประเทศไทย จากการศึกษาอัตราความชุกของโรคในประเทศไทย มีอัตราความชุกอยู่ระหว่าง 15-45 % โดยประมาณ โดยพบโรคโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ มีอัตราชุกสูงสุดในกลุ่มโรคภูมิแพ้ นั่นหมายความว่า ประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ มีปัญหาเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้อยู่
โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่มีการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์
โรคภูมิแพ้สามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ คือถ่ายทอดจากพ่อและแม่ มาสู่ลูก เหมือนภาวะอื่นๆ เช่น หัวล้าน ความสูง สีของตา เป็นต้น ในทางตรงกันข้าม แม้ว่าพ่อแม่ของคุณเป็นโรคภูมิแพ้ คุณอาจจะไม่มีอาการใดๆเลยก็ได้

โดยปกติ ถ้าพ่อหรือแม่ คนใดคนหนึ่งเป็นโรคภูมิแพ้ ลูกจะมีโอกาศเป็นโรคภูมิแพ้ประมาณ 25 % แต่ถ้าทั้งคุณพ่อและคุณแม่เป็นโรคภูมิแพ้ทั้งคู่ ลูกที่เกิดออกมามีโอกาศเป็นโรคภูมิแพ้สูงถึง 66 % โดยเฉพาะ โรคโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ จะมีอัตราการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์สูงที่สุด

มีปัจจัยอื่นอีกหรือไม่ที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้..??

ถ้าคุณได้รับการถ่ายทอดโรคภูมิแพ้ทางกรรมพันธุ์จากพ่อแม่ของคุณ แต่ไม่เคยสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ คุณก็จะไม่มีอาการของโรคภูมิแพ้ คุณจะต้องได้รับสารก่อภูมิแพ้ ที่สามารถกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาภูมิไวเกินในร่างกายของคุณ การได้รับสารก่อภูมิแพ้ จะต้องได้รับปริมาณมากพอ และนานพอ ที่จะกระตุ้นให้ร่างกายคุณเกิดปฏิกิริยาดังกล่าว จึงทำให้เกิดอาการของโรคภูมิแพ้ขึ้น อาการของคุณจะเป็นมากขึ้น เมื่อภูมิต้านทานลดต่ำลง เช่นในขณะที่คุณเข้าสู่วัยรุ่น การติดเชื้อในบริเวณต่างๆ การตั้งครรภ์ เป็นต้น
โรคภูมิแพ้หายขาดได้หรือไม่ ?

เป็นคำถามของผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ทุกคน ต้องการคำตอบมากที่สุด
โรคภูมิแพ้ อาจหายไปได้เอง โดยเฉพาะเมื่อผู้ป่วยโตเป็นผู้ใหญ่ แต่ส่วนใหญ่มักไม่หายขาด โดยอาการของโรคภูมิแพ้อาจสงบลงไปช่วงหนึ่ง และมักจะกลับมาเป็นใหม่

http://umphs-umphs.blogspot.com/ เพลงเพราะๆ

women's snow boots

วันเสาร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2553

ภูมิแพ้ ใครจะไปรู้ว่าเป็น ????

ใครจะรู้ได้บ้างว่าเป็นภูมิแพ้ ผมเองก็ไม่รู้ อายุก็ 29 เข้าให้ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็น ขอเล่าแล้วกันว่าเรื่องมันเกิดขึ้นได้อย่างไร
อาการที่ผมได้เห็นคือ มีผื่นขึ้นตามผิวหนัง เริ่มแรกเหมือนจะเห็นที่แถว บริเวณหน้าแข้งด้าน ขวา และด้านซ้าย
แบบว่ามันเป็นเหมือนผื่นคันทั่วไป เริ่มแรก ก็ไม่ได้ใส่ใจกับผื่นนี้มากเท่าไร แต่พอสักพักก็ คันมากแบบว่า สุดๆกันไปเลย ก็เลยเกามันซะ
ให้มันหายกลัดกลุ้มความคันและปลดเปลื้องอารมณ์คัน .... อ้างส์

.... พอเกาจนเลือดออกซิบๆ (ออกจริงๆ เพราะเกาแรงมาก) ก็จะหายคันไป กลายเป็นแสบแทน แต่ก็ยังดีที่ไม่คัน ยอมแสบแทน
เป็นๆ หายๆอยู่หลายปี 4-5 ปีมั้งครับเท่าที่จำได้ พอช่วงปีที่ 3-4 นั่นล่ะที่ อาการมันเริ่มมีที่อื่นแทน (เหมือนมันจะเลือกที่เกิดใหม่ได้) คือสีข้าง
หรือเรียกว่าเอว เป็นเล็ก หย่อม เดียว แต่พอเกาก็เริ่มขยาย ออก จาก แค่เริ่มไม่กี่ตุ่ม เล็กๆ เริ่มขยายวงเป็นวงกว้างมากขึ้น จนสามารถวัดขนาดได้เท่า 1 ฝ่ามือใหญ่ๆ เลย
(มันน่าจะโดนกระชับพื้นที่มั่งนะเนี่ย ^ ^) ... มือผมใหญ่มาก แต่ที่เด็ดกว่านั้น คือ มันดันมีทั้งสองข้าง นี่ซิ
ทั้ง ซ้ายและขวา เลย ..... โอ้ยเครียดดดดดดด

เคยไปหาหมอผิวหนัง หมอนิสัยดีมาก ดูแป๊บๆ ก็บอกว่า ผมแพ้เหงื่อ อากาศร้อน จะทำให้ผื่นขึ้น แล้วค้น
...... คุณหมอครับ เมิงไม่บอกกูก็รู้ว่ากูคัน ก็อาการมันออกตอนช่วงนั้นนี่
คุณหมอใจดี แนะนำว่าเอานี่ ไป ยาทา บอกแพ้เหงื่อ ไม่มีอะไรมาก ทาๆ เดี๋ยวหาย เบร็ดเสร็จ จ่ายค่ายาค่าตรวจ
กลับมาบ้าน ทายาๆ ทาเข้าไป ก็ยังไม่หาย ผ่านมา 2 ปีก็เกิด อาการเช่นนี้ เป็นๆหายๆ

บอกตามตรง บางครั้งในหลายๆครั้ง (มันแปลว่าทุกครั้งนั่นล่ะ) ตัวเราเองก็เกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง ไม่กล้าที่จะถอดเสื้อต่อหน้า้ผู้อื่น (อดโรคจิตเลย)
และอายที่แสดงอาการคันออกมา แบบว่ามันค้นมากกกกกก สุดๆ จนยอมรับว่า ยอมเกาจนกลายเป็นแผลเพื่อให้มันหายไปเป็น แผลโดนเกาแทน

อยู่มาวัน 1 ในวันก่อนวันเกิดได้ไปส่งแฟนสาวไปหาหมอภูมิแพ้ ซึ่งแฟนไปหาทุกเดือนเป็นเวลาหลายปีแล้วเพราะ เป็นภูมิแพ้เกสร ดอก หญ้า
ไม่เคยคิด ว่าตัวเองจะตรวจ วันนั้นไม่รู้อะไรดลใจ เงินก็ไม่มี ก็ถามแฟนนั่นล่ะว่า ขอยืมได้ใหม อยากลองถามหมอ ว่าเรา เนี่ยเป็นอะไร
เพราะเห็นหมอท่านนี้ มีใบรับรอง และใบต่างๆมากมาย ....เย๊อะมาก แถมเหรียญอีกมากมาย (แอบคิดเล็กๆว่า วิ่ง 100เมตร แน่ๆ)
พอได้เข้าไปตรวจ

เชิญ รอที่ห้องเบอร์ 2 นะค๊ะ .......

สักพักคุณหมอก็มา

คุณหมอท่านก็พูดว่า ใหนๆ ดูหน่อยสิอาการคัน ...ดึงเสื้อขึ้นให้ หมอดูด้านขวา (อาย อ่ะ แบบว่า อายที่เป็นเช่นนี้)
หมอก็ อ้อมไปดูด้านหลังว่าเป็นใหม
แล้วจู่ๆ หมอก็พูดว่า ด้านซ้ายก็เป็นด้วยใช่ใหม ... โอ้ว พระเจ้า รู้ได้ไง ไม่ได้บอกคนรับคิวด้านหน้าด้วยนะเนี่ย

ก็เลยถามคุณหมอ ว่า ทำใมถึงรู้ว่าด้านซ้ายก็มีล่ะครับ งง มากมาย

คุณหมอ ก็เลยพูดว่า "ก็เพราะมันเป็นอาการของคนเป็นภูมิแพ้น่ะสิ" .....เหว๋ออออ ผื่นคันนรกนี่น่ะนะ (เหมือน คินดะอิจิ รู้ว่าใครเป็นคนร้ายเลย)

ปล..... เดี่ยวมาเล่าต่อครับ เมื่อยมากมาย


เพลงเพราะๆ
women's snow boots

• เรื่องหมูๆ

หมูที่เรากินเคยรู้บ้างใหมว่ามันมีหลายอย่างกว่าที่เราคิด Embarassed

ช่วงหนึ่งของชีวิตการทำงานที่ผ่านมาของผมได้เข้าร่วมทำงานกับ บริษัทผลิตสุกร จึงทำให้รู้ว่ามันมีหลายอย่างกว่าที่คิด

เมื่อก่อนถ้าจะกินหมู ก็ไปที่ตลาดไม่คิดอะไรมาก แต่พอได้มาทำ ก็แบบว่า Undecided.....โอ้ววว มายก๊อด นี่มัน...

คือว่า เล่าแบบสั้นๆ ช่วงการเลี้ยงของหมูเนี่ยมันมีตามนี้นะครับ

1. แม่ให้กำเนิดลูก 2-3 ปี คือช่วงที่แม่จะต้องให้กำเนิดลูกให้ได้ตามเป้า

ถ้าไม่ได้แล้วจะเป็นยังไง .... โดนส่งคัดทิ้ง = ขายไปชำแหละ = เชือด = ตาย <<< เพราะ แก .... ให้กำเนิดลูกได้ไม่ถึงเป้า Tongue out

2. ถ้าใน 2-3 ปี ต่อให้ถึงเป้า แต่เมื่อถึงเวลา แบบว่า ให้ที่สุด เจ้าก็รอดพ้นมาได้แล้วนะ สามารถออกลูกได้ ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ....เรามีสัมนาคุณให้ >>>> โดนส่งคัดทิ้ง = ขายไปชำแหละ = เชือด = ตาย <<< นี่หรือคือการตอบแทน ของคนเคยรักกัน Tongue out

3. ถ้าให้กำเนิดลูกได้แต่ไม่มีนมให้ .....ก็ต้อง โดนส่งคัดทิ้ง = ขายไปชำแหละ = เชือด = ตาย <<< เพราะดันไม่มีนมพอให้ลูก โอ้ววววว โน้ววววว Undecided

4. ถ้าลูก อ่อน แอ ก็ต้องเจอ แบบเดียวกันของตอนท้ายของ ทั้ง 3 อย่างตามที่เคยว่ามา Foot in mouth

แล้ว หมู คัดทิ้ง นี่มันคือยังไงล่ะ Laughing ฉันจะไปทันได้กินตอนใหน .... ผมก็ไม่รู้หรอกว่าได้กินตอนใหน แต่หมูคัดทิ้งจะมีพ่อค้ามารับถึงฟาร์ม เพื่อเอาไปขายที่ต่างจังหวัด เพราะซื้อมาในราคาถูก และหมูยอ หรือ แหนม ที่เรากินๆ กัน ก็ คือ หมูที่โดนคัดทิ้งนำมาใช้ทำนี่ล่ะครับ แถวตลาดบ้านนอกก็ มาขอรับหมูตามที่ว่า นี้ เพื่อนำไปแล่ขาย เพราะราคาไม่แพง แต่จะมี มันเย๊อะ น้ำหนัก 1 ตัวอยู่ราวๆ 190-330 กิโลซึ่ง ต่างจากหมูขุน ซึ่ง จะกำหนดไว้ที่ 100 กิโล ก็ต้อง เกิดใหม่แล้ว...โดนเชือด

ปล....รู้แล้ว ก็ จุ๊ๆ เงียบๆ ไว้ไม่อยากโดนยิงตาย

เพลงเพราะๆ
women's snow boots

วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2553

• อยากมีป้ายหน้าร้าน แง้ แง้ ทำไงดี T^T

• อยากมีป้ายหน้าร้าน แง้ แง้ ทำไงดี T^T จะบอกว่าทำเองก็ได้นี่ ... รู้ใหมว่า ป้ายนั้นเราต้องได้เสียภาษีด้วย โหดชิบ ยังไม่ได้ลูกค้าก็มีแต่เรื่องเสียตัง ก็แล้วไม่อยากเสียภาษีเองอ่ะ ทำยังไงล่ะครับ ? ..... ถามแบบนี้ก็มีตอบให้ มา มา มา จัดให้ ขอป้ายครับ ขอใคร ? ขอยังไง ? ขอเขาจะดีหรือ ?

ขอป้าย ขอใครดีล่ะ ....ก็มี แป๊บซี่, โค๊ก ,เบียร์ ช้าง , เบียร์ สิงห์ , เบียร์ ลีโอ ^ ^

ถ้าขอฟรี ๆ ใครที่ใหนก็ไม่ให้หรอก ดีไม่ดี จะโดนเตะก้านคอสลบซะ

ถ้าเราขอ ทาง แป๊บซี่ หรือ โค๊ก เราต้องซื้อของเขาด้วยแต่เราก็ไม่ได้ขาดทุนนะครับ เพราะการที่เรานำน้ำอัดลมของเขามาลง เราต้องทำอย่างไรบ้าง ก็มีตามนี้ จ่ายค่าลัง ค่าลังส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 200 บาทต่อลัง แล้วค่าน้ำต่างหาก ( เอาแค่ขวดเปล่ามาทำแป๊ะอะไร ถ้าไม่เอาน้ำ )

ค่าน้ำก็ ถ้าแป๊บซี่เขาก็จะมี แป๊บซี่ มิรินด้า (แดง ส้ม เขียว 7up) ชาลิปตั้น น้ำดื่มคริสตัน ตกลังละ 166 บาท มีอยู่ 24 ขวด ต่อลัง

ถ้าโค๊กเข้าก็จะมี โค๊ก แฟนต้า (แดง ส้ม เขียว สไปรส์) อื่นๆ ตกลังละ 177 บาท ( มีแอบแพงซะด้วย )

*** มันสำคัญก็ตรงนี้ล่ะครับ เราบอกเขาเลยว่า พี่ ผม เอาของที่พี่ แล้วพี่มีอะไรให้ผมได้บ้าง พอจะช่วยผมได้ใหม ...ทำหน้าใสซื่อแกมน่าสงสารด้วยจะดีมาก ผมเพิ่งเปิดใหม่ ยังไม่มีป้ายร้านเลยพี่ พี่ช่วยผมได้ใหม ตู้แช่ผมก็ยังไม่มีเลย โอยรับรองไม่ได้ให้มันรู้ไป แต่ถ้าไม่ได้คิดเอาเองนะเพราะ หน้าตาท่าทางหรือเปล่า เอิ้กๆๆๆ ขำซะ ....ผมล้อเล่นนะ แต่ถ้าเราคุยดี ก็จะมีของอื่นๆเช่น ที่ใส่กระดาษ หรือที่รองแก้ว และอื่นๆ

อยากได้ป้ายแบบ เหล้าเบียร์ก็ทำเหมือนกัน ถามเอาครับ จากร้านที่เรารับของเขามา ว่าช่วยผมได้ใหมผมอยากได้ป้ายร้านน่ะพี่ สั่งของที่เขาแบบเย๊อะๆหน่อบรอบแรก ไม่ต้องมากก็ได้นะครับไม่เกิน 5,000-7,000 บาท ก็พอ แต่ยังไม่ต้องจ่ายเงินนะครับ จนกว่าเขาจะตบปากรับคำกับเราว่าเดี๋ยวจัดให้ แล้วเขาจะส่งตัวแทนติดต่อเรา โดยมาที่ร้านหรือทางโทรศัพท์ ถ้าคุยดี นอกจากจะได้ป้ายแล้วยังจะได้ของอื่นๆอีก เพื่อประดับร้าน แถมยังมีให้เลือกว่าจะเอาป้ายแบบ ตั้งเสาหรือล้อลากจะได้เลื่อนได้

เป็นยังไงครับพอจะเป็นแนวทางให้ได้บ้างใหมครับ

พิมพ์มาก็เหนื่อย ไม่ขออะไรมากครับหวังว่าความรู้นี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น ผมไม่ขออะไรมาก แต่ช่วยขอบคุณสักนิดก็ดีจะได้เป็นกำลังใจสำหรับเรื่องต่อไป ^ ^

By umphs มันอ่านว่า อั้ม เพลงเพราะๆ
women's snow boots

• เปิดเพลงจากคอมในร้าน มันผิดมากใหม ^ ^

• เปิดเพลงจากคอมในร้าน มันผิดใหม .... ถามใจเราสิครับถ้าเราว่าไม่ผิดแล้วใครจะมาทำอะไรเรา - -" เอาเข้าจริงก็ผิดน่ะล่ะครับ แล้วมันผิดมากใหม .... ไม่มากเท่าไรครับ ค่ายละ 20,000-50,000 บาทเอง แถมมีค่ายหลักอีก 2 ค่ายก็ แบ่งเป็นค่ายละ 50,000 บาทครับ 100,000 บาท อ้วกซะ

กลุ่มที่มักจะโดนกันก็ได้แก่ ร้านอาหาร,ร้านเหล้า,ร้านInternet พวกนี้ล่ะ มีวิธีแก้ครับไม่ยาก ...มา มา มา จะเล่าให้ฟัง

1. จดใบขออนุญาติ ครับ ค่ายละ 5,000 บาทเอง / ปี นะครับ สองค่ายหลักก็ 10,000 บาทต่อปี ถือว่าตกประมาณ 1,000 บาทต่อเดือน ถ้าจดแล้วเราก็สามารถ เตะก้านคอสมาคมหมัดดาวไถได้ละครับ ในกรณีที่เราโดนเรียกเก็บ ^ ^ ...อย่าไปทำจริงนะครับ พวกมาตรวจบางกลุ่มมักเป็นคนที่พกปืนไว้ในรถ ป่ะเดี๋ยวโดนยิงมา ป๋มม๊ะเกี่ยวน้า อย่างโยงมาเชียว

2. เอาตู้คาราโอเกะมาลง วิธีนี้เรียกว่าเข้าด้านมืดเอาครับ เพราะถ้ามีตู้คาราโอเกะ แบบหยอดเหรียญ เราจะสามารถบอกเจ้าของตู้ให้ช่วยเราได้ครับ เพราะเขาจ่ายส่วยให้ตำรวจกันเองแล้ว เราก็สามารถเปิดเพลงจากคอมพิวเตอร์ ถ้ามีลูกค้าอยากหยอดเหรียญฟังเพลง เราก็บอกตู้เสีย แต่เราก็ต้องยอดไว้บ้างก็ดีนะครับเพื่อที่เจ้าของตู้จะได้มีรายได้ไม่เอาตู้กลับไป สัก 500 - 700 บาทก็ได้ครับ

3. เปิดแต่เพลงต่างประเทศ มาแบบนี้ก็สามารถรอดไปได้เหมือนกันเพราะ เพลงต่างประเทศคนตรวจจับมักไม่ค่อยมี เรียกได้ว่า แทบไม่มี .... ง่ายเลยใหมครับแบบนี้

ปล.สำหรับทริกด้านมืดทั้งหลาย ถ้ามีคนมาตรวจแล้วเราไม่ชัวร์ ก็ให้เตะปลั๊กไฟคอมพิวเตอร์ก็ได้ครับ ....เตะให้ดับหรือปิดก็ได้ครับเพราะเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเปิดเครื่องคอมเราได้ครับ เขาไม่มีสิทธิ์ แถมไม่มีสิทธิ์ยืดคอมเราด้วย

พิมพ์มาก็เหนื่อย ไม่ขออะไรมากครับหวังว่าความรู้นี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น ผมไม่ขออะไรมาก แต่ช่วยขอบคุณสักนิดก็ดีจะได้เป็นกำลังใจสำหรับเรื่องต่อไป ^ ^
เพลงเพราะๆ
women's snow boots

By umphs มันอ่านว่า อั้ม

• จดทะเบียนพาณิชย์ ทำใม ทำยังไง แล้วได้อะไร ^ ^

• จดทะเบียนพาณิชย์ ทำใม ... ก็เพื่อเป็นหลักฐานว่าร้านเรานั้นถูกต้องตามกฎหมาย ตำรวจดาวไถ จะได้หาข้ออ้างช่วยดูแลร้านเรายากยิ่งขึ้นไงครับ .... ( ก็มันจริงๆนะ ) ค่าจดก็อยู่ที่ 50 บาทเอง ถ้าอยากเสียมากกว่า 50 บาท ก็ไม่ต้องไปจด แล้วเราจะเจอลูกค้าประจำ..กินแล้วไม่ต้องจ่ายสักบาท ( เจอดาวไถ ซะ )

การไปจดก็ไปจดที่เทศบาลของแต่ละพื้นที่ อย่างของเชียงใหม่ก็ ตรงกันข้ามของศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ น่ะครับ จดแล้วเราต้องได้กระดาษใบขนาดเท่า A4 มา1ใบ บอก ชื่อ จด เมื่อ ชื่ออะไร ภาษาไทย + English ***เอกสารที่เราต้องนำไปด้วยก็ได้ แก่ สัญญาเช่าที่ , สำเนาทะเบียนบ้านของสถานที่ , สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของสถานที่ , สำเนาทะเบียนบ้านของเรา , และสำเนาบัตรประชาชนของเรา ***

ปล. อย่าลืมเซ็นสำเนาเอกสารถูกต้องทุกใบล่ะครับ ^ ^

อย่าเพิ่งคิดว่าจะจบง่ายๆ แค่นั้น เรายังไม่ได้จดใบอนุญาตขายสุราเลย ถ้ามีบุหรี่ ก็ต้องจดด้วยนะ

การจดใบอนุญาตขายสุรา เราต้องนำเอกสารใบทะเบียนพาณิชย์และเอกสาร อื่นๆคือ ...สัญญาเช่าที่ , สำเนาทะเบียนบ้านของสถานที่ , สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของสถานที่ , สำเนาทะเบียนบ้านของเรา , และสำเนาบัตรประชาชนของเรา นำไปให้ครบนะครับ สัญญาเช่าก็ต้องถ่ายเอกสารด้วย

เมื่อเอกสารครบก็นำไปที่ กรมสรรพสามิต เลย Go ! ก่อนไปอย่าลืมนำเงินไปด้วยล่ะ ไปจดทีละซะอ้วกเลยนะคราวนี้ เพราะอะไรน่ะหรอ ก็เพราะที่กรมนี้จดทีเสียเงินเย๊อะมาก มา มา จะเล่าให้ฟัง

1. เหล้าไทย ค่าจด 150 มั้งครับถ้าจำไม่ผิด

2. เหล้านอก ค่าจด 1650 .... โหดเลยใหม สนับสนุนให้กินเหล้าไทยซะจริงเชียว

********* เหล้าไทยมันเป็นยังไง บ้านนู๋ เจ้าคุณพ่อดื่มแต่ ไวน์ ..... เหล้าไทยหรือสุราไทย ก็มี แสงโสม แม่โขง เหล้าขาว เซียงซุน ประมาณนั่นล่ะครับ

********* เหล้านอกมันเป็นยังไง บ้านนู๋ กินแต่เหล้าแป๊ก ( ซัดเป็นตองๆ ) เหล้านอกก็พวก 100Pipers , Red , Black และอื่นๆ


ยังไม่จบนะ ถ้าจะขายบุหรี่ก็ เหมือนกันแต่ บุหรี่นอกค่าจดก็ 20 บาท บุหรี่ไทยก็ 20 บาท ราคาต่างกันเห็นๆ แสดงว่ารัฐ ต้องการให้เราสูบบุหรี่มากกว่าสินะ d('.^ )

ปล.สำหรับผู้จดทะเบียนและขอใบอนุญาต ควรขอตอนต้นปีเพราะ เขาคิดเป็นปีนะครับ จขบ.เคยมาแล้วขอตอน 15 วันจะสิ้นปี ก็ได้เสียเต็มๆ แสรดดดด จริงๆ ไม่ลดให้กันเลย ปีใหม่ก็ได้มาเสียอีกรอบ

พิมพ์มาก็เหนื่อย ไม่ขออะไรมากครับหวังว่าความรู้นี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น ผมไม่ขออะไรมาก แต่ช่วยขอบคุณสักนิดก็ดีจะได้เป็นกำลังใจสำหรับเรื่องต่อไป ^ ^

By umphs มันอ่านว่า อั้ม เพลงเพราะๆ
women's snow boots

ซื้อโต๊ะ+เก้าอี้+อุปกรณ์แก้ว+ถ้วยชาม ยังไงให้ราคาถูก ^ ^

เวลาเราคิดจะเปิดร้าน ส่วนใหญ่ก็มักจะคิดว่าของใหม่อ่ะ ดีกว่า แต่ถ้าคุณคิดจะทำธุรกิจแล้วคืนทุนให้ไว การลงทุนควรจะน้อยเพราะมันจะคืนทุนได้ไวกว่า หลายๆร้าน ไม่ว่าร้านเหล้า ร้านอาหาร ก็ทำเช่นนี้ล่ะถ้ามีประสบการณ์ ...ไม่มีคนมาบอกคุณหรอกว่า ทางร้านเราใช้ของ มือสอง ซื้อมาจากร้านที่ปิดตัวลงหรือเลิกกิจการ แต่ไม่เป็นไรนะ เราทำความสะอาดแล้ว ^ ^ ... ก็นั่นล่ะครับ ป่ะเราไปดูกันเถอะ มีวิธีใหนบ้าง

1. ซื้อของแบบยกโหล ซื้อแบบเป็นโหลราคามักจะถูกกว่าจะเหมือนบีบให้ซื้อแบบนี้เท่านั้นแต่ก็ดีสำหรับเราเพราะ ร้านต้องใช้ของเย๊อะอยู่แล้ว

2. ซื้อจากร้านที่ปิดกิจการหรือว่าเซ้ง ของมักจะราคาถูกมากลองไปดูละกันครับ บางทีอาจจะอยากเหมาหมดกลับมาเลยก็ยังได้ มีทั้ง โต๊ะ เก้าอี้ ถ้วยชาม จาน ช้อนส้อม กระทั่งของตกแต่งภายในร้าน

3. ถามเจ้าของสถานที่ที่เราเช่า เพราะในหลายครั้งที่เจ้าของที่มักจะยึดของภายในร้านที่ไม่จ่ายค่าเช่าแล้วหนีไปเลย ... มีจริงๆนะ ^ ^ ก็อย่างที่บอกเจอมาแล้วหลายแบบ

เป็นยังไงครับหลายๆวิธีที่บอกมา พอจะเป็นแนวทางให้ได้บ้างใหมครับ

ปล.ขอแนะนำก่อนจ่ายเงิน กรุณาต่อรองราคาให้ได้ถูกที่สุด เพราะเราจะได้ของที่ถูกคุ้มค่าราคานะครับ นี่ล่ะที่สำคัญ

เอาล่ะแค่นี้ก่อนละกันครับวันหลังจะมาเล่าต่อ อยากรู้เรื่องใหนก็ถามกันมาได้นะครับ ขอบคุณที่อ่าน

By umphs มันอ่านว่า อั้ม เพลงเพราะๆ
women's snow boots

จากประสบการณ์ เปิดร้านเหล้า ^ ^

เรื่องที่จะเล่าก็จากที่เคยได้ทำมาสัมผัสมาเองกับมือ ลุยเองทุกอย่างทุกขั้นตอน แต่ก็ขอบอกไว้ก่อนว่าที่ทำและได้เจอนั้น ทั้งหมดเพื่อแชร์ประสบการณ์เพื่อวันข้างหน้าสำหรับคนอื่นจะต้องได้ดีกว่าผม นะ ... มาเล่าให้ฟังจากคนเชียงใหม่ ^ ^ (ไม่รู้ทำใม ใครต่อใคร บางทีมักไม่ค่อยยอมบอก กลัวคนอื่นได้ดีหรือยังไง ? )

สถานที่... เวลาที่เราได้สถานที่แล้วการทำสัญญา เราต้องดูให้ดีด้วยว่าสัญญาที่เราตกลงนั้น มันเวลากี่ปี เพราะส่วนใหญ่พอได้เช่าก็ แบบว่า เฮ ๆ ๆ ๆ กูได้ร้านแล้วเว้ย 5555..... เอาล่ะกลับไปดูว่ามันกี่ปี เพราะส่วนใหญ่มักจะแค่ 1 ปี พอปีหน้าค่อยมาต่อใหม่นะ ถ้าโดยทั่วไปก็จะคิดว่า เอ้ย ไม่เป้นไรหรอกปีหน้าค่อยมาต่อใหม่ได้ ถ้าอยู่ไม่ถึงจะทำยังไง .... ขอบอกว่า ไอ่อยู่ไม่ถึงน่ะไม่เป็นไรจัดเซ้งได้ ....แต่ ไอ่อยู่ถึงและได้ดีสิปัญญหา เพราะถ้าเจ้าของที่เขาใจดีไม่คิดเพิ่มมันก็รอดไป แต่ในหลายๆแห่งมักจะเป็นดังนี้

1. ขึ้นค่าเช่าในปีถัดไป ส่วนใหญ่มักจะโดนกัน ( โดนกันทีล่ะ เซงจิตเลย )
2. มีค่าแป๊ะเจี้ย ( แนวนี้ก็มักจะโดน ทีละห้าหมื่นถึงแสน ขึ้นไป .... ไม่ปล้นกูเลยล่ะคร้าบบบ )
3. โดนทั้ง ข้อ 1 + 2 รวมกัน ( โหดได้ใจเลยใหม )
4. เอาร้านไปปล่อยเช่าให้คนอื่นแทนที่ให้ราคาดีกว่านี้ ( เศร้าเลยนะนั่น ทำร้านมาให้เจ้าของที่ไปปล่อยต่อ )

วิธีแก้หรือข้อเสนอแนะ ก็มีไม่มากหรอกครับ (จะให้ทำไงก็มันมีไม่มากจริงๆ )

1. คำนวนดูให้ดีเพราะ เราลงทุนตกแต่งร้านซื้อโต๊ะเก้าอี้ และอุปกรณ์อื่นๆอีกมากมาย มันจะสามารถคืนทุนได้ใน ระยะเวลาที่สัญญาเช่าเรายังมีเวลาอยู่หรือไม่ ( ถ้าร้านไม่เจ้งซะก่อน )

2. ตรวจสอบข้อสัญญาและดูเอกสารข้อตกลงกันไว้ให้ดีด้วย ถามได้ถามซะ ถ้ารายละเอียดใหนไม่มี ขอเพิ่มก็ยังได้ ถ้าเขาไม่เพิ่มให้น่ะสิแปลก ก่อนเซ็นเรายังไม่ขาดทุน หลังเซ็นแล้วเราถอนตัวลำบากนะ



วันนี้เอาแค่นี้ก่อนละกันครับวันหลังจะมาเล่าต่อ อยากรู้เรื่องใหนก็ถามกันมาได้นะครับ ขอบคุณที่อ่าน

By umphs มันอ่านว่า อั้ม เพลงเพราะๆ
women's snow boots